วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

    สรุปเนื้อหาการเรียน  รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา    ในวันที่  24    ตุลาคม  2558  สอนโดย อาจารย์ภัทรดร  จั้นวันดี      นางสาวณัฐิยา    ตะมิน   หมู่เรียนที่  2   รหัส  58723713218


การศึกษาสภาพปัญหาการเรียนการสอนโรงเรียนบ้านดงยอสามัคคีพิทยาศิลป์

ชื่อโรงเรียน โรงเรียนบ้านดงยอสามัคคีพิทยาศิลป์ ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000
1. บริบทของโรงเรียน





2. ระบุเหตุผลที่ศึกษาโรงเรียนนี้
          โรงเรียนบ้านดงยอมามัคคีพิทยาศิลป์เป็นโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งมีปัญหาการจัดการเรียนการสอน รวมถึงการใช้สื่อนวัตกรรมมาปรับให้เข้ากับการจัดการเรียนการสอนยังไม่ดีเท่าที่ควร
3.  ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนบ้านดงยอสามัคคีพิทยาศิลป์ คือ
1.   ปัญหาของนักเรียน นักเรียนยากจน  สมาธิสั้นเรียนรู้ช้า
2.   สภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนครูสอนไม่ตรงวิชาเอก
4. การแก้ไขปัญหาการจัดการเรียนการสอน
      อบรมพัฒนาทางออนไลน์ รวมถึงอบรมพัฒนาตนเองทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดอบรมตลอด
ศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต  จัดให้ครูผู้สอนเข้าอบรมตามโครงการที่โรงเรียนจัดตั้งไว้   ผลิตสื่อตามเนื้อหาที่สอนให้ตรงกับวัยนักเรียนและให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้หรือตัวชี้วัด




วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สรุปเนื้อหาการเรียน  รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา    ในวันที่  17    ตุลาคม  2558  สอนโดย อาจารย์ภัทรดร  จั้นวันดี      นางสาวณัฐิยา    ตะมิน   หมู่เรียนที่  2   รหัส  58723713218


บันได 5 ขั้นเพื่อการพัฒนาผู้เรียน : QSCCS > (IS 1 -IS 3)
1. การตั้งคำถาม/สมมติฐาน (Hypothesis Formulation)
      เป็นการฝึกผู้เรียนให้รู้จักคิด สังเกตตั้งคำถามอย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์ซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในการตั้งคำถาม (Learning to Question)
2. การสืบค้นความรู้และสารสนเทศ(Searching for Information)
     เป็นการฝึกแสวงหาความรู้ข้อมูล และสารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลายเช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ตหรือจากการฝึกปฏิบัติทดลอง เป็นต้น ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ในการแสวงหาความรู้(Learning to Search)
3. การสร้างองค์ความรู้ (Knowledge Formation)
     เป็นการฝึกให้ผู้เรียนนำความรู้และสารสนเทศที่ได้จากการแสวงหาความรู้มาถกแถลง อภิปราย เพื่อนำไปสู่การสรุปและสร้างองค์ความรู้(Learning to Construct)
4. การสื่อสารและนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication)
     เป็นการฝึกให้ผู้เรียนนำความรู้ที่ได้มาสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีทักษะในการสื่อสาร(Learning to Communicate)
  5. การบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Public Service)
     เป็นการนำความรู้สู่การปฏิบัติซึ่งผู้เรียนจะต้องเชื่อมโยงความรู้ไปสู่การทำประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนรอบตัวตามวุฒิภาวะของผู้เรียนและจะส่งผลให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะและบริการสังคม(Learning to Serve)
เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถพื้นฐานเบื้องต้นสำคัญที่ใช้ในการเรียนรู้ 3 ด้าน คือ
ความสามารถด้านภาษา (Literacy)
ความสามารถด้านคำนวณ (Numeracy)
ความสามารถด้านเหตุผล (Reasoning ability)


วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สรุปเนื้อหาการเรียน  รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา    ในวันที่  10    ตุลาคม  2558  สอนโดย อาจารย์ภัทรดร  จั้นวันดี      นางสาวณัฐิยา    ตะมิน   หมู่เรียนที่  2   รหัส  58723713218


                                                     เรื่องที่เรียน  

                  1.  สื่อ
                    2.  แหล่งเรียนรู้
                    3.  การวัดและประเมินผล
                    4.  ระบบ
                   5.  การบูรณาการ

     สรุปได้ดังนี้


                      1.  สื่อ


           

                       2.  แหล่งเรียนรู้




                     3.  การวัดและประเมินผล




                      4.  ระบบ




                         5.  การบูรณาการ








วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

 สรุปเนื้อหาการเรียน  รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาในวันที่  3    ตุลาคม  2558  สอนโดย อาจารย์ภัทรดร  จั้นวันดี     นางสาวณัฐิยา    ตะมิน   หมู่เรียนที่  2   รหัส  58723713218



แบ่งกลุ่มเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ   6   คน  กลุ่มดิฉันได้เรื่อง ระบบ  โดยได้สรุปและทำเป็นผังความรู้ดังนี้





วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558


สรุปเนื้อหาการเรียน  รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาในวันที่  26    กันยายน  2558  สอนโดย อาจารย์ภัทรดร  จั้นวันดี        นางสาวณัฐิยา    ตะมิน   หมู่เรียนที่  2   รหัส  58723713218

 

รูปแบบขององค์ประกอบ  UNESCO MODEL

                      ระบบการเรียนการสอนประกอบด้วยส่วนย่อยต่างๆ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันและกัน ส่วนที่สำคัญคือกระบวนการเรียนการสอน ผู้สอนและผู้เรียน ยูเนสโก ( UNESCO ) ได้เสนอรูปแบบขององค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนไว้โดยมีองค์ประกอบ 6 ส่วน คือ

1. องค์ประกอบของการสอนจะประกอบด้วย ผู้สอน ผู้เรียน สื่อ การเรียนการสอนวิธีสอนซึ่งทำงานประสานสัมพันธ์กัน อันจะเป็นพาหะ หรือแนวทางผสมกลมกลืนกับเนื้อหาวิชา

2.  กิจกรรมการเรียนการสอน จะต้องมีสื่อการเรียนการสอนและแหล่งที่มาของสื่อการเรียนการสอนเหล่านั้น

3. ผู้สอนต้องหาแนวทางแนะนำช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีที่สุด

4. การเสริมกำลังใจ การจูงใจแก่ผู้เรียน นับว่ามีอิทธิพลต่อการที่จะเสริมสร้างความสนใจให้การเรียนการสอนมีคุณภาพ

5. การประเมินผล ผลที่ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพโดยการประเมินทั้งระบบ เพื่อดูว่าผลที่ได้นั้นเป็นอย่างไรเป็นการนำข้อมูลข้อเท็จจริงมาเปรียบเทียบกับประสิทธิผลของระบบ เพื่อการแก้ไปรับปรุงต่อไป

6. ผลที่ได้รับทั้งประเมิน เพื่อประเมินผลในการปรับปรุงและเปรียบเทียบกับการลงทุนในทางการศึกษาว่าเป็นอย่างไร

 

 

 

รูปแบบการสอนของแฮนนาฟิน แอนด์เพ็ค (Hannafin and Peck)

แฮนนาฟิน แอนด์เพ็ค (Hannafin and Peck)ได้พัฒนารูปแบบการสอนขึ้นในปี คศ. 1987

สำหรับออกแบบบทเรียนทั่ว ๆ ไป ซึ่งจำแนกออกเป็น 4 ขั้นตอนใหญ่ๆ ดังนี้

1. การประเมินความต้องการ (Needs Assessment) ได้แก่การประเมินความต้องการ

ของผู้เรียนเพื่อการเรียนการสอนหรือการฝึกอบรม เป็นกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความ

จำเป็นของการใช้บทเรียนเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ในขั้นตอนนี้จึงเป็นการทำงานด้าน

เอกสารเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนำผลที่ได้ไปใช้ในการออกแบบบทเรียนให้สอดคล้องกับความต้องการในขั้นต่อไป ประกอบด้วยขั้นตอนย่อย ๆ ดังนี้

1.1 การกำหนดคุณสมบัติของผู้เรียน

1.2 การระบุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของบทเรียน

1.3 การกำหนดรูปแบบการนำส่งบทเรียน ได้แก่ซีดีรอม เว็บช่วยสอนไฮเปอร์มีเดีย

หรือเอกสาร เป็นต้น

1.4 การระบุข้อจำกัดในการใช้บทเรียน เช่น อายุผู้เรียน เวลา คอมพิวเตอร์สมรรถนะ

ที่จำเป็นของผู้เรียน และอื่น ๆหลังจากประเมินความต้องการในขั้นตอนแรก จะต้องมีการประเมินและปรับปรุงแก้ไข (Evaluation and Revision) ก่อนที่เข้าสู่ขั้นตอนของการออกแบบ (Design) ในขั้นที่สองต่อไป ซึ่งการประเมินความต้องการจะต้องมีความชัดเจนในประเด็นต่อ ไปนี้

1) การเรียนการสอนจะต้องมีความชัดเจน

2) บทเรียนต้องมีความเหมือนกัน (Consistently) ทุก ๆ บทเรียน

3) การออกแบบบทเรียนจะต้องมีเหตุผลและมีความเป็นมิตร (User-friendly)

4) กิจกรรมการเรียนรู้จะต้องง่ายต่อการติดตาม

5) เนื้อหาบทเรียนที่นำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ กราฟิก หรือเสียงก็ตาม จะต้องมีความหมาย

6) การออกแบบ การกำหนดตำแหน่งหน้าจอ สีหรือ อื่น ๆ จะต้องสอดคล้องกับบทเรียน

 

2. การออกแบบ (Design) ได้แก่ การออกแบบบทเรียนตามผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ความต้องการในขั้นตอนแรก โดยนำผลลัพธ์ที่ได้มาออกแบบบทเรียนตามกระบวนการเรียนรู้ผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนนี้จึงเป็นตัวบทเรียนต้นแบบที่พร้อมจะนำไปพัฒนาในขั้นต่อไป

3. การพัฒนาและการทดลองใช้ (Develop/Implement) ได้แก่ การพัฒนาเป็นบทเรียน

เช่น บทเรียนสำเร็จรูป บทเรียนคอมพิวเตอร์ หรือระบบการสอน ตามแนวทางการออกแบบที่ได้

จากขั้นตอนที่สอง หลังจากนั้นจึงนำไปทดลองใช้กับกลุ่มเป้าหมาย

4. การประเมินและสรุปผล (Evaluation and Revision) ได้แก่การประเมินผลบทเรียน

และสรุปผล เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปแก้ไขบทเรียนในโอกาสต่อไป





 

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

     สรุปเนื้อหาการเรียน  รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาในวันที่  19    กันยายน  2558  สอนโดย อาจารย์ภัทรดร  จั้นวันดี     นางสาวณัฐิยา    ตะมิน   หมู่เรียนที่  2   รหัส  58723713218


ระบบการเรียนการสอนของคลอสเมียร์และริปเปิล
             คลอสเมียร์ และริปเปิล (Klausmeier; & Ripple  ) ได้กำหนดองค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนไว้ 7 ส่วน คือ
1. การกำหนดจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน
2. การพิจารณาความพร้อมของผู้เรียน
3. การจัดเนื้อหาวิชา วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ
4. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
5. การดำเนินการสอน
6. การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน
7. สัมฤทธิผลของนักเรียน



ระบบการเรียนการสอนของเนิร์คและเยนตรี
             เนิร์ค และเยนตรี (Knirk; & Gentry. 1971) ได้กำหนดองค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนเป็น 6 ส่วน คือ
1. การกำหนดเป้าหมาย เป็นการกำหนดเป้าหมายของการสอนไว้อย่างกว้าง ๆ
2. การวิเคราะห์กิจกรรม เป็นการวิเคราะห์งานต่าง ๆ ที่จะต้องทำโดยการย่อย
เป้าหมายของการสอนออกเป็นจุดประสงค์ของการสอนเพื่อให้มีความละเอียดและชัดเจนยิ่งขึ้น
3. การกำหนดกิจกรรม เป็นการกำหนดกิจกรรมให้เป็นหมวดหมู่ และเลือกเอา
เฉพาะกิจกรรมที่มีความเหมาะสมที่สุด
4. การดำเนินการสอน เป็นขั้นของการนำเอาแผนการที่วางไว้ไปสอนในชั้น
เรียน ผู้สอนจำเป็นต้องควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
5. การประเมินผล เป็นการประเมินผลการดำเนินงานทั้งหมดของระบบ เพื่อให้
ทราบจุดดีและจุดอ่อนที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข
6. การปรับปรุงแก้ไข เป็นขั้นของการนำข้อมูลที่ได้จากการประเมินผลไปแก้ไข
จุดอ่อนของระบบการเรียนการสอนเพื่อจะทำให้เป็นระบบการเรียนการสอนที่มีความเหมาะสม
หรือมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น



ระบบการเรียนการสอนของ Seels & Glagow Model
                    ซีลส์ และกลาสโกว์ (Seels;& Glasgow. 1990) ได้เสนอการจัดระบบการเรียนการสอน โดยมีขั้นตอนดังนี้
         1. การวิเคราะห์ปัญหา (Problem Analysis) เป็นการพิจารณาว่าเกิดปัญหาอะไรในการเรียนการสอนโดยผ่านการรวบรวมและเทคนิคการประเมินและระบุสิ่งที่เป็นปัญหา
          2. วิเคราะห์การสอนและกิจกรรม (Task and Instructional Analysis) เป็นการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อกำหนดด้านเจตคติเพื่อกำหนดสิ่งที่ได้เรียนมาก่อน
          3. การกำหนดวัตถุประสงค์และแบบทดสอบ (Objective and Tests)เป็นการกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมและแบบทดสอบอิงเกณฑ์
         4. กลยุทธ์การเรียนการสอน (Instructional Strategy) เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์และองค์ประกอบด้านการเรียนการสอน
          5. การตัดสินใจเลือกสื่อการสอน (Media Decision) เป็นการเลือกสื่อการเรียนการสอนและวิธีการใช้เพื่อทำให้การเรียนการสอนบรรลุผล
          6. การพัฒนาการสอน (Materials Development) เป็นการวางแผนสำหรับผลผลิต การพัฒนาวัสดุ เครื่องมือหรือโปรแกรมที่ใช้ในการเรียนการสอน
         7. การประเมินผลย่อยระหว่างเรียน (Formative Evaluation)  เป็นการประเมินผลเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน รวบรวมข้อมูล และตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียนการสอน
         9. การประเมินผลรวมภายหลังการเรียน (Summative Evaluation) เป็นการพิจารณาประเมินผลว่าผ่านเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่
          10. การเผยแพร่และขยายผล (Dissemination Diffusion)  เป็นขั้นของการจัดการให้มีการเผยแพร่ ขยายผลนวัตกรรมการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น



ระบบการเรียนการสอนของRobert Gange’Model
                         โรเบิร์ต กาเย่ (Robert Gange') ได้นำเอาแนวแนวความคิด 9 ประการ มาใช้ประกอบการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้บทเรียนที่เกิดจากการออกแบบในลักษณะการเรียนการสอนจริง โดยยึดหลักการนำเสนอเนื้อหาและจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์ หลักการสอนทั้ง 9ประการได้แก่
          1. เร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention)
          2. บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective)
          3. ทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knoeledge)
          4. นำเสนอเนื้อหาใหม่ (Present New Information)
          5. ชี้แนะแนวทางการเรียนรู้ (Guide Learning)
          6. กระตุ้นการตอบสนองบทเรียน (Elicit Response)
          7. ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback)
          8. ทดสอบความรู้ใหม่ (Assess Performance)
         9. สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer)

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558


สรุปเนื้อหาการเรียน  รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาในวันที่  5   กันยายน  2558  สอนโดย อาจารย์ภัทรดร  จั้นวันดี     นางสาวณัฐิยา    ตะมิน   หมู่เรียนที่  2   รหัส  58723713218 




                                     OBE    ( Outcome Based Education  )

    Concept   Idea 
-    ใช้ผลการเรียนรู้เป็นตัวกำหนดกระบวนการที่เหมาะสม ในการพัฒนานักเรียน
-    กระบวนการ / Proeess  ( How  to  ? )  ถือเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ
-    การผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพ  ขึ้นอยู่กับการกำหนด   LO  ( learning object  )








Understand   Learning  Outcomes
ผลการเรียนของ  สพฐกำหนดไว้  3  ด้าน
-   จิตพิสัย
-   พุทธพิสัย
ทักษะพิสัย

Expansion  Detail  Learning  Outcomes
-    ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
-    ความสามารถในการสื่อสาร
-    ความสามารถในการคิด
-    ความสามารถในการแก้ปัญหา
-    ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

Thinking  Development
 “  การศึกษา  มิใช่การเรียนรู้ความเป็นจริงหรือสิ่งที่มีอยู่… แต่การศึกษา เป็นกระบวนการฝึกฝนและสร้างทักษะให้รู้จักคิด  ”

  Thinking Development
-   Analytical  Thinking                
-   Systemic  Thinking
-   Critical   Thinking
-    Reflective  Thinking
-    Logical  Thinking
-    Analogical  Thinking
-    Practical  Thinking
-   Deliberative  Thinking
-   Creative  Thinking
-    Team  Thinking
การพัฒนาศักยภาพทางการคิด  เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนทุกกลุ่มสาระวิชา  โดยเฉพาะในยุคของ  Digital  Economy

World is changing  very  fast
-  โลกปัจจุบันเป็นโลกแห่งการแข่งขัน
-   ภาคธุรกิจอุสาหกรรมจึงต้องหาเทคนิคใหม่ๆอยู่เสมอ
-  ในอดีตเราอาจได้ยินคำว่า  ปลาใหญ่กินปลาเล็ก  big  beats  small  !!
-    เวลาเปลี่ยนโลกเปลี่ยนไป  ปัจจุบันเราควรตระหนักไว้ว่า Fast  beats  slow  !!

เข้าใจ
ปัจจัยสู่ความสำเร็จสู่กระบวนการเรียนรู้
-   Interst   ความสนใจของนักเรียน
-   Intention  ความตั้งใจของนักเรียน  และคุณครู
-   Teaching  วิธีการสอนของคุณครู
-   Aptitude   ความสามารถของนักเรียน
-    Experience   ประสบการณ์สอนของครู
-   Responsibility  ความรับผิดชอบของครู
-   Difficulty  ความยากง่ายของวิชา

เข้าถึง
-   ผู้สอนต้องเข้าถึงผู้เรียน
-   ผู้สอนต้องมีวิทยาการสอน
-   ต้องเข้าใจลักษณะเด็กสมัยใหม่

ข้าถึง  ธรรมชาติผู้เรียน
-   ความต้องการทางกาย
-   ต้องการความมั่นคงปลอดภัย
-   ต้องการความรัก  และเป็นที่ยอมรับ
-   ต้องการได้รับการยกย่อง
-   ต้องการเข้าใจและรักตนเอง


พัฒนา
คุณครูที่มีศักยภาพ  ควรมีคุณลักษณะบางอย่างหรือหลายประการดังนี้
-   เป็น  นำเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน
-   ใช้และใฝ่หาเทคนิคเพื่อกระตุ้นผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ
-    มีความคิดสร้างสรรค์
-    ประเมินตนเอง  มีความรู้ลึกซึ้งมากแค่ไหนในวิชาที่สอน